พยานซองเงินอีกคน คดีกรมอุทยาน ให้ปากคำบอกไม่รู้เงินค่าอะไร

พยานซองเงินอีกคน คดีกรมอุทยาน ให้ปากคำบอกไม่รู้เงินค่าอะไร

เรียกได้ว่ายังพีคไม่หยุดหลัง พยานซองเงินอีกคนจาก คดีกรมอุทยาน ให้ปากคำว่าไม่รู้ว่าเงินค่าอะไร ยอมรับเป็นซองของสังกัดตนจริง หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ แห่งหนึ่งที่ จ.ลำปาง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมยศ ร่มสน รอง ผบก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน บก.ปปป เพื่อให้ปากคำคดีกรมอุทยาน หรือกรณีที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่พบเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการซื้อตำแหน่งตามที่รายงานก่อนหน้านี้

พยานรายนี้กล่าวว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับซองเงินของกลาง 

แต่ก็ยอมรับว่ารายชื่อที่ปรากฎอยู่บนซองนั้นเป็นของหน่วยงานย่อยที่อยู่ในสังกัดของตนเองจริง เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ที่นำซองเงินไปมอบให้อธิบดีฯ จึงไม่ทราบว่าเป็นเงินค่าอะไร และมอบให้เพื่อจุดประสงค์ใด โดยขอให้พนักงานสอบสวน ติดต่อขอสอบปากคำเองอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ พยานซองเงินสดรายแรกได้เข้าให้ปากคำและระบุว่า เงินสดในซอง จำนวน 1 แสนบาทนั้น เป็นเงินค่าเช่าพระและเงินค่าทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน พร้อมกับนำรูปภาพพระบูชาดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาอีกด้วย อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อและจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

กลับมาแล้ว พระอ๋อย พระคาดผมแก้ปวดหัว พระดังเมื่อปี 65 หลังมีคนพบโผล่บวชวัดใหม่ สำนักเจ้าคณะเผยบวชใหม่ได้ไม่ผิด ถ้ายังจำกันได้กับกรณี พระคาดผมแก้ปวดหัว หรือ พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ อายุ 65 ปี พระอ๋อย เจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก ต.บางหญ้าแพรก อ.พระแระแดง จ.สมุทรปราการ หลังถูกร้องเรียน เนื่องจากมีพฤติกรรมมั่วสีกาและรับดูดวงสะเดาะเคราะห์ โดยพระอ๋อยได้ใส่ที่คาดผมและอ้างว่าใช้แก้ปวดหัว จนกลายเป็นกระแสดังก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุดชาวบ้านบริเวณวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองแสง อ.ปากพลี จ.นครนายก แจ้งสื่อมวลชนว่าพบอดีต พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ อายุ 65 ปี กลับมาบวชใหม่ พร้อมรับทำพิธีดูดวง ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา พร้อมโพสต์คลิปว่า พระอ๋อย ห่มผ้าเหลืองอยู่ในวัดจริงและได้มีการพูดคุยกัน

ทางสำนักข่าวอมรินทร์ทีวีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ก่อนจะพบพระคาดผมจริง ทว่าทางพระอ๋อยสังเกตเห็นผู้สื่อข่าวอมรินทร์จึงขึ้นรถเก๋งออกจากวัดไป

จากการสอบถามสำนักเจ้าคณะ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทำให้ทราบว่า อดีตพระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ อายุ 65 ปี สมัครใจสึกเองต่อหน้าเจ้าคณะอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงไม่ได้ปาราชิกเพราะไม่ได้เป็นความผิดซึ่งหน้า ประกอบกับฝ่ายหญิงไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับพระอ๋อย ดังนั้นพระอ๋อยสามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพระอุปปัชฌาย์ และทางวัด

ทางเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ได้เชิญทีมข่าวอมรินทร์เข้าไปฟังคำชี้แจงภายในวัด โดยระบุว่า อาตมาเป็นคนนำพาและชักชวนพระอ๋อยกลับมาบวชที่วัดแห่งนี้เอง เนื่องจากรู้จักกัน และตรวจสอบแล้วว่าพระอ๋อยไม่ได้มีความผิดอะไร โดยการบวชนั้นเป็นไปตามขั้นตอนของสงฆ์ มีพระอุปปัชฌาย์ มีการออกใบสุทธิถูกต้อง อยากให้สังคมเข้าใจว่าที่ผ่านมา อาจมีขบวนการจัดฉากกลั่นแกล้งพระอ๋อยก็เป็นได้ จึงอยากให้ผู้ที่ติดตามข่าวไปย้อนดูภาพในอดีตแล้วตัดสินเอาเองว่าเป็นอย่างไร

เข้าสู่วันที่ 25 ยังไม่พบ ผู้สูญหายเรือหลวงสุโขทัย ยอดคงที่ 5 ราย

กองทัพเรือยังคงเดินหน้าตามหา ผู้สูญหายเรือหลวงสุโขทัย หลังจากที่เมื่อวานนี้ไม่พบกำลังพลเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้สูญหายยังคงที่ 5 ราย เข้าวันที่ 25 ในการตามหาผู้สูญหายเรือหลวงสุโททัยอับปาง โดยเมื่อวานนี้ทางกองทัพเรือยังคงเดินหน้าตามหาผู้สูญหาย ซึ่งตลอดวันนั้นไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่มเติม โดยจำนวนผู้สูญหายเรือหลวงสุโขทัยยังคงอยู่ที่ 5 รายเท่าเดิม

เรือหลวงหลัก และเรือลาดตระเสนออก ค้นหาบนผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนชุดลาดตระเวนเดินเท้า ปูพรมค้นหาตามเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะที่เคยค้นหาไปแล้วก็เข้าค้นหาซ้ำอีก ทั้งบริเวณเกาะชุมพร ซึ่งไม่พบผู้สูญหาย พบเพียงลักษณะคล้ายอุปกรณ์ช่วยชีวิตบนเรือ และชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ออกค้นหาบริเวณเกาะไข่ จ.ชุมพร ทั้งการเดินเท้าสำรวจค้นหา และการดำน้ำค้นหา ก็ยังไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่มเติมเช่นกัน

ส่วนนักประดาน้ำที่ไปดำน้ำสำรวจและค้นหาบริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือประจวบ 20 ไมล์ทะเล หรือ 36 กิโลเมตร ผลการปฏิบัติก็ไม่พบผู้ประสบภัย

ซึ่งก่อนหน้านี้ พลเรือโทพิชัย ช้อชูสกุล ผู้บัญชาการทีพเรือภาคที่ 1 บอกว่า กองทัพเรือยังได้ให้เรือลาดตระเวนในจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เรือประมงเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว เพราะบริเวณใต้น้ำมีกระแสคลื่นและความแรงของคลื่นใต้น้ำอาจจะทำให้เรือหลวงสุโขทัยที่ตั้งอยู่พลิกตัวได้

ส่วนจะมีโอกาสเข้าไปค้นหาในตัวเรือมากน้อยแค่ไหนนั้นนั้น เนื่องจากคลื่นใต้น้ำแรง และมีความยากเพราะยังมีอวนของเรือประมงคลุมทับไว้อยู่ ก็จะเป็นอุปสรรคกับนักประดาน้ำ ที่จะไปเกี่ยวอุปกรณ์การดำน้ำ รวมถึงเวลาในการปฏิบัติการของนักประดาน้ำที่มีจำกัด ซึ่งตอนนี้ได้ทำระยะไว้แล้วในการค้นหาจากตัวเรือห่างออกมาระยะ 300 เมตร ก็จะค้นหารอบๆพื้นที่นี้ แต่จากการค้นหาแล้วก็ยังไม่พบผู้สูญหาย

ความเห็นนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมครับ ไม่ใช่ความเห็นทางการของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี”

Credit : เว็บสล็อตแท้